วันอังคารที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2553

การประดิษฐ์กล่องดินสอ






 





กล่องนมดื่มเสร็จแล้วอย่าเพิ่งทิ้ง ล้างและตากให้แห้ง แล้วนำมาทำเป็นที่ใส่ดินสอเอาไว้ใช้ประโยชน์



อุปกรณ์ และ วิธีการทำ

อุปกรณ์


1. กล่องนมตัดฝาออกหนึ่งด้านล้างให้สะอาด ตากให้แห้ง


2. กระดาษแข็ง (เศษกระดาษจากกล่องเหลือใช้) ตัดเป็นฐานตั้งกล่องตัดให้เกิดขนาดกล่องด้านละ 1 ซม.


3. กระดาษสีฉีก


4. กาวลาเท็กซ์


5. กรรไกร


6. ผ้าเช็ดมือชุบน้ำ


7. กระดาษกาวย่น


วิธีการทำ


1. ตัดฝากล่องนมด้านบน (ที่มีที่เจาะรอออก)


2. ติดฐานกระดาษกับกล่องนมด้วยเทปกาวย่น (ให้เด็กใช้กรรไกรเด็กตัดกระดาษกาวย่นเอง)


3. ให้เด็กๆช่วยฉีกกระดาษสีเป็นชิ้นเล็กๆ


4. ให้เด็กทากาวลาเท็กซ์ทีละด้าน (ทาเสร็จให้เช็ดมือด้วยผ้าเปียกทันทีไม่งั้นเด็กจะมัวแต่ถูกาวออก)


5. แล้วก็นำกระดาษสีที่ฉีกไว้แปะไม่ให้เห็นฉลากของกล่องนมเลย ทำจนครบสี่ด้าน


6. เวลาเด็กๆแปะกระดาษอาจจะไม่เรียบ สามารถทำให้เรียบได้ด้วยการทากาวลา

เท็กซ์ทับเป็นการเคลือบกล่อง เมื่อแห้งจะเรียบและเป็นเงาสวยงาม



7. ตากแห้งแล้วก็นำมาใช้งานได้


เด็กได้อะไรจากการทำกิจกรรมนี้


คงมีหลากหลายมุมมองตามประสบการณ์ สำหรับแม่จาเห็นว่ากิจกรรมนี้เด็กๆจะได้ฝึกเรื่องกล้ามเนื้อมือ (กล้ามเนื้อมัดเล็ก) ในการตัด การฉีกกระดาษ การแปะกระดาษ ซึ่งไม่ใช่งานง่ายสำหรับเด็ก นอกจากนี้ยังเป็นการฝึกให้เด็กมีสมาธิ อดทนทำงานจนเสร็จ เพราะกว่าจะแปะให้ชิดติดกันจนปิดรอยกล่องทั้งสี่ด้านเด็กๆจะต้องค่อยๆใจเย็นทำ ติดทีละชิ้น ทีละชิ้น และสุดท้ายเด็กๆจะภูมิใจที่ได้ทำของใช้เองที่ไม่ต้องไปซื้อหา สุดท้ายที่สำคัญก็คือการให้ลูกรู้จักการ รีไซเคิล...ใช้สิ่งของให้คุ้มค่ากับการที่เราต้องไปเอาทรัพยากรธรรมชาติมาใช้


ถ้าเป็นเด็กโตชั้นประถม เราให้เขาทำงานยากขึ้นอีกนิดอาจจะเสนอให้เขาติดเป็นรูปทรง หรือเรื่องราวเพราะการติดกระดาษชิ้นๆแบบนี้ก็คล้ายกับการทำงานโมเสกที่ปะเป็นรูปต่างๆได้ ก็จะเป็นงานศิลปะที่เด็กโตหน่อยจะได้ใช้จินตนาการและความตั้งใจมากขึ้นไปอีกนิด
นอกจากนี้แล้ว กล่องเครื่องดื่มยังสามารถนำไปทำเป็นผลิตภัณฑ์พลาสติกต่างๆ ได้อีก เช่น ที่รองแก้ว, ที่วางซีดี, ที่ใส่ของ, กระเป๋า และเครื่องใช้อื่นๆ อีกมากมาย…



จากกล่องเครื่องดื่มที่ธรรมดา เมื่อเรากินหมดก็ทิ้งไป แต่กลับสร้างสิ่งใหม่ได้มากมาย ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องที่ยากเกินไปที่เราจะนำสิ่งเหลือใช้ หรือบางทีที่เราเห็นว่ามันคือ ขยะ มารีไซเคิล


ลองกลับไปดูรอบๆตัวเราซิ ว่ามีอะไรอีกบ้างที่สามารถนำมารีไซเคิลได้อีก เพื่อเรา เพื่อธรรมชาติ เพื่อโลก





วันจันทร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2553

เนื้อหาการไฟฟ้า

ประวัติ


การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค มีที่มาเริ่มจากการเป็นแผนกไฟฟ้า ในกองบุราภิบาล กรมสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย และก่อตั้งไฟฟ้าเทศบาลเมืองนครปฐมเป็นจังหวัดแรก เมื่อ พ.ศ. 2473 ต่อมาใน พ.ศ. 2477 มีการปรับปรุงแผนกไฟฟ้า เป็น กองไฟฟ้า สังกัดกรมโยธาเทศบาล กระทรวงมหาดไทย และเปลี่ยนชื่อเป็น กองไฟฟ้าภูมิภาค ในภายหลัง

 
ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง รัฐบาลเห็นความจำเป็นในการสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานด้านไฟฟ้า จึงออกพระราชกฤษฎีกา ซึ่งให้ไว้เมื่อวันที่ 6 มีนาคม พุทธศักราช 2497 และประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 16 มีนาคม พุทธศักราช 2497 ก่อตั้ง องค์การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค มีทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท มีการไฟฟ้าอยู่ในความดูแล จำนวน117 แห่ง อยู่ภายใต้การควบคุมของกรมโยธาเทศบาล กระทรวงมหาดไทย และรัฐบาล โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มีอำนาจกำกับโดยทั่วไป


การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ได้รับการสถาปนาตามพระราชบัญญัติ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค พุทธศักราช 2503 ณ วันที่ 28 กันยายน 2503 โดยรับช่วงภารกิจต่อจาก องค์การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค มาดำเนินการ อย่างต่อเนื่อง ด้วยทุนประเดิมจำนวน 87 ล้านบาทเศษ มีการ ไฟฟ้าอยู่ในความรับผิดชอบ 200 แห่ง มีผู้ใช้ไฟจำนวน 137,377 ราย และพนักงาน 2,119 คน กำลังไฟฟ้าสูงสุดในปี 2503 เพียง 15,000 กิโลวัตต์ ผลิตด้วยเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซลล์ทั้งสิ้น สามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าบริการ ประชาชนได้ 26.4 ล้านหน่วย (กิโลวัตต์-ชั่วโมง) ต่อปี และมีประชาชน ได้รับประโยชน์ จากการใช้ไฟฟ้าประมาณ 1 ล้านคน หรือร้อยละ 5 ของประชาชนที่มีอยู่ทั่วประเทศในขณะนั้น 23 ล้านคน



[แก้] การแบ่งเขตรับผิดชอบ


การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคแบ่งพื้นที่รับผิดชอบออกเป็น 4 ภาค แต่ละภาคแบ่งเป็น 3 เขตย่อย



ภาคเหนือ



กฟน.1 เชียงใหม่



กฟน.2 พิษณุโลก



กฟน.3 ลพบุรี



ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ



กฟฉ.1 อุดรธานี



กฟฉ.2 อุบลราชธานี



กฟฉ.3 นครราชสีมา



ภาคกลาง



กฟก.1 พระนครศรีอยุธยา



กฟก.2 ชลบุรี



กฟก.3 นครปฐม



ภาคใต้

กฟต.1 เพชรบุรี

กฟต.2 นครศรีธรรมราช

กฟต.3 ยะลา
รูปภาพ